บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2019

ระยะของโรคไวรัสตับอักเสบซี

รูปภาพ
เนื่องใน วันตับอักเสบโลก วันนี้จะมาอธิบายถึงระยะของการติดเชื้อของไวรัสตับอักเสบซี จนพัฒนาไปเป็นโรคร้ายแรงขั้นสุดให้ได้ทำความเข้าใจกันอย่างชัดเจน วันตับอักเสบโลก ระยะที่ 1 การติดเชื้อเฉียบพลัน (6 เดือนแรก) หลังจาก ไวรัสตับอักเสบซี เข้าสู่กระแสเลือดแล้ว ตัวไวรัสจะไหลต่อไปยังตับ ส่งผลให้มีการติดเชื้อในเซลล์ตับ และเชื้อไวรัสจะเริ่มเพิ่มปริมาณมากขึ้น ประมาณ 20% ของจำนวนไวรัสตับอักเสบซีมันเอง ซึ่งในระยะนี้สามารถกำจัดไวรัสออก ได้ด้วยตัวเอง ภายในไม่กี่เดือน ระยะที่ 2 การติดเชื้อเรื้อรัง ประมาณ 80% ของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีที่ไม่สามารถกำจัดไวรัสออกได้ด้วยตัวเองจะเกิด การติดเชื้อเรื้อรัง ระยะของโรคตับอักเสบ ระยะที่ 3 การอักเสบและการเกิดพังผืดที่ตับ ระยะนี้ไวรัสตับอักเสบซีจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นจากการฆ่า เซลล์ตับ ความเสียหายนี้จะทำให้ตับอักเสบ และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะเกิดเป็นเนื้อเยื่อแผลเป็นในตับเรียกว่า "พังผืด" ระยะนี้ไวรัสจะทำลายตับไปเรื่อยๆ มักจะใช้เวลามากกว่า 20-30 ปี โดยมากผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมักจะไม่แสดงอาการใดๆ ให้เห็นเลย ระ

อาการต่างๆ ของไวรัสตับอักเสบซี

รูปภาพ
ตรวจไวรัสตับอักเสบซี อาการต่างๆ ของโรค ไวรัสตับอักเสบซ ีของแต่ละบุคคลนั้น มักจะแสดงออกไม่เหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะในบางรายก็มีอาการให้เห็นออกมาเด่นชัด แต่ในบางรายก็ไม่มีหรือมีอาการที่น้อยม ากจนไม่เป็นที่สังเกต ทั้งนี้ถึงได้มีองค์กรต่างๆ ช่วยกันรณรงค์โดยท ั่วไปให้ไป ตรวจหาเชื้อไวรัสตั บอักเสบซี เป็นประจำ ในกลุ่มบ ุคคลที่มีความเสี่ยงต่อโรค โดยอาการของโรคไวรัสตับอักเสบซ ีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโ รค ระยะเวลาแฝงตัวของเชื้อ และสภาพร่างกายเดิมของผู้ ติดเชื้อ แต่อาการจะค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ให้เราสังเกตได้ ดังต่อไปนี้ รู้สึกเหนื่ อยง่าย อยากนอนหลับทั้งวัน พักผ่อนไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง  ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย หอบ ปวดเมื่อย ตามร่างกาย แขนขา ปวดหัวและปวดตามข้อต่างๆ มีไข้อ่อนๆ แต่ไม่สูงมาก ติดต่อกันหลายวัน และอาจมีผื่นขึ้น รู้สึกเบื่ออาหาร หรือทานอาห ารได้น้อยลงกว่าปกติ อาการไวรัสตับอักเสบซี รู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง บริเวณชายโครงด้านขว า เป็นๆ หายๆ ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม และอุจจาระมีสีซีด มีอาการดีซ่าน ( ตัวเหลือง ตาเหล

ดูแลตนเองระหว่างรักษา ช่วยให้หายเร็วขึ้น

รูปภาพ
การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี เมื่อคุณติด ไวรัสตับอักเสบซี แล้ว นอกจากจะควรรีบเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ที่ดูแลเกี่ยวกับโรคตับ โรคทางเดินอาหารที่โรงพยาบาลทั่วไป ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี ควรจะทาน ยาฆ่าเชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดยตรงให้ตรงต่อเวลา ไม่ลืมโดยเด็ดขาด ดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อันจะเป็นสาเหตุให้ การทำงานของตับ แย่ลง ควรพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว น้ำที่ดีควรเป็นน้ำอุณหภูมิห้องที่ไม่เย็นจัดจนเกินไป ปรึกษาเมนูอาหารที่ทานได้และที่ควรหลีกเลี่ยงกับแพทย์ผู้รักษา ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอแต่ไม่ควรหักโหม เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ไม่ควรซื้อยาอื่นหรือสมุนไพรมารับประทานเอง และควรไปพบแพทย์ตามนัด อย่าให้ขาดเพื่อที่จะได้ตรวจเช็คความคืบหน้าในการรักษาว่าตรงตามเป้าหมายหรือไม่ เท่านี้ก็จะช่วยให้กระบวน การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี คืบหน้าและหายขาดได้เร็วขึ้น สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv

ไวรัสตับอักเสบซีในเมืองเขตร้อน

รูปภาพ
ไวรัสตับอักเสบซีในเมืองเขตร้อน ไวรัสตับอักเสบซี เป็นสายพัน ธุ์ที่พบได้บ่อยในแถบเมืองเ ขตร้อน โดยเฉพาะในผู้ติดเชื้อที่ชอบดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เย็นๆ มากจนเกินไปจนทำให้เกิดการอักเส บของตับ สร้างความเสียหายนำไ ปสู่ ภาวะตับแข็ง แต่อาการจะค ่อยๆ พัฒนาไม่ได้แสดงออกให้เห็นทันที ตัวไวรัสตับอักเสบซีจะ แฝงตัวอยู่หล ายปี ตั้งแต่เริ่มมีการดื่มแ อลกอฮอล์ในส่วนที่เกินจาก 80 กรัมของเครื่องดื่มต่อวันใน เพศชาย และ 40 กรัมต่อวันในเพศหญิง และจะผันแปรตั้งแต่ โรคตับอั กเสบระดับอ่อน ที่ไม่มีอาการนานหลายสิบปี จนถึงตับอักเ สบขั้นรุนแรง จนถึงโรคตับวาย หากผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเ สบซีมีการตรวจค่า AST และ ALT จะพบว่ามี ค่าตับ ในระดับสูงผิดปกติ โรคตับกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังส่ง ผลต่อ เซลล์ตับ โดยตรง ทำให้การกระตุ้นโครงสร้างขอ งเซลล์ซ่อมแซมตัวเองได้ไม่ด ีพอ อาจเพิ่มโอกาสให้ มีความบกพร ่อง ทางพันธุกรรมเม็ดเลือดขา ว ผู้หญิงบางคนที่ติด ไวรัสตับ อักเสบซี อาจมีประจำเดือนที่ ผิดปกติไปจากเดิม หรือกลายเป็นคนที่ไม่มีประจ ำเดือนไปเลยก็มี เมื่อ เซลล์ตับ เกิดความเสียห ายอย่างต่อเนื่

หน้าที่สำคัญของตับ

รูปภาพ
หน้าที่สำคัญของตับ ผลิตโปรตีนที่สำคัญหลักๆ ที่รู้จักกันดีก็คือ "อัลบูมิน" หรือเรียกว่าไข่ขาว การควบคุมสมดุลของเหลวในร่า งกาย หากร่างกายของเรามีปริมาณอัลบูมินในเ ลือดลดลง จะทำให้ไม่สามารถอุ ้มน้ำและเกลือแร่ไว้ในหลอดเ ลือดได้ อาจเกิดภาวะบวมตามส่วนต่างๆ หรือมีการรั่วของน้ำเข้าไปใ นอวัยวะในร่างกาย โดยจะมีอาการ ท้องมาน ซึ่งเป็นอาการหลักของผู้ที่ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ตับทำหน้าที่ผลิตโปรตีน ที่ช่วยใน การแข็ง ตัวของเลือด ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ในเ วลาที่เรามีอุบัติเหตุ เลือด ตกยางออก ตับที่ดีจะทำหน้าที่หยุดเลื อดนั้นได้ เวลาที่เกิดอันตรายใดใดขึ้นต่อหลอดเ ลือดจะได้ ไม่มีเลือด ออกมากจ นถึงแก่ชีวิต หน้าที่ของตับ ผลิตน้ำดีและขับออกทางท่อน้ำ ดี ไหลลงไปสู่ลำไส้เล็ก เพื่อช่วยในการย่อย อาหารประ เภทไขมัน รวมทั้งเอาของเสียท ี่ร่างกายไม่ต้องการออกไปด้ วย หากการทำงานของตับไม่ดี ก็จะเกิดอาการเกี่ยวกับโรคไ วรัสตับอักเสบซีโผล่มาอีกนั่ นก็คือ โรคดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ตับทำหน้าที่กำจัดสารที่ชื่ อว่า "บิลลิรูบิน" ที่เกิดจากการสลายของเม็ดเล ือดแดงที่หมด

อวัยวะใดในร่างกายที่สำคัญที่สุด?

รูปภาพ
ตับและการทำงานของตับ หากจะถามว่าอวัยวะใดในร่างกายของคนเราที่สำคัญที่สุด หลายคนอาจจะคิดว่า "หัวใจ" หรือเปล่า เพราะหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกาย แต่ความจริงแล้วรู้หรือไม่ว่า  "ตับ" เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์เรา โดยมีน้ำหนักประมาณ 1 ใน 50 ของน้ำหนักตัวของคนเราเลยทีเดียว เช่น หากคุณมีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ตับของคุณอาจจะหนักถึง 1 กิโลกรัมกว่าๆ เลยก็เป็นได้ เมื่อเป็นทารกแรกเกิด ตับจะมีขนาดใหญ่ถึง 1 ใน 18 ของตัวเด็ก เพราะฉะนั้นตับจึงถือเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกายของคนเราอย่างมาก การทำงานของตับ ลักษณะของตับจะมี รูปร่างคล้ายลิ่ม ซ่อนตัวอยู่บริเวณชายโครงด้านขวาใต้กระบังลม มีกระดูกซี่โครงทางด้านขวากันไว้เป็นเกราะป้องกันอีกชั้น สีของตับจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ผิวมันเรียบ เทียบได้เหมือน ตับหมูหรือวัว ที่เราเห็นได้ทั่วไปในท้องตลาด ตับของมนุษย์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ  ส่วนขวาที่เป็นส่วนใหญ่ของตับและ ส่วนซ้ายที่มีขนาดเล็กกว่าประมาณ 5-6 เท่า  เลือดที่ไหลเวียนภายในตับมีปริมาณมากซึ่งเป็นเลือดที่มาจากหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ