บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2018

ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี DAAs

รูปภาพ
ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี ตัวใหม่ที่ใช้วิธีรับประทานแทนนั้นเรียกรวมๆ ว่ายา DAAs ซึ่งย่อมาจาก Direct Acting Antiviral drugs ค่ะ โดยยารักษา ไวรัสตับอักเสบซี นี้จะเข้าไปยับยั้งโดยตรงต่อไวรัส ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงซึ่งต่างจากยาฉีดในโรงพยาบาล ที่ออกฤทธิ์อ้อมๆ โดยการกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายให้ไปทำลายไวรัสตับอักเสบซีมากกว่า ปัจจุบันวิวัฒนาการในการผลิตยาก้าวหน้ามาก ทำให้รู้ว่าไวรัสตับอักเสบซีเข้าสู่เซลล์ตับตรงไหน อย่างไร จนจับต้นชนปลายเจ้าไวรัสได้เสียหมดทำให้การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี ให้หายขาดไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไวรัสตับอักเสบซี เป็น อาร์เอ็นเอไวรัส (RNA Virus) ถูกค้นพบมากกว่า 13 ปีแล้ว และเป็นสาเหตุที่พบเป็นอันดับแรกๆ ของภาวะตับอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการได้รับเลือด เป็นไวรัสที่มีคุณสมบัติในการกลายพันธุ์ได้สูง และเกิดการติดเชื้อแบบเรื้อรังได้มาก ทางติดต่อที่สำคัญคือ การได้รับเลือด หรือส่วนประกอบของเลือดที่มีการปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบซี นอกจากนั้นอาจติดจากการใช้ ยาเสพติด ชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด การสักหรือการฝังเข็ม การเจาะหูโดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด ส่วนการติดต่อทางเพศสัมพันธ์แ

โรคตับอักเสบซี ภัยร้าย ใกล้ตัว

รูปภาพ
อาการของโรค ไวรัสตับอักเสบซี อาการ ที่เด่นชัด คือ อ่อนเพลีย ดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเหลืองเหมือนขมิ้น) โดยมักไม่มีอาการไข้ (ตัวร้อน) ร่วมด้วย บางคนอาจมีอาการปวดเสียด หรือจุกแน่น แถวลิ้นปี่ หรือชายโครงขวา (ซึ่งเป็นตำแหน่งของตับ) ในบางคนอาจสังเกตได้ว่า ก่อนมีอาการ ดีซ่าน จะมีอาการดีซ่าน จะมีอาการเป็นไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คล้ายไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่าย เหลว หรือท้องเดินร่วมด้วย เมื่อไข้ลด (อาจมีไข้อยู่ 4-5วัน) ก็สังเกตเห็นปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม แล้วเห็นอาการตาเหลือง ตัวเหลืองตามมา นอกจากนี้ ถ้าคนไข้ได้รับการเจาะเลือดตรวจจะพบว่า ระดับเอนไซม์ทรานซามิเนส ได้แก่ เอสจีโอที (SGOT) และเอสจีพีที (SGPT) ขึ้นสูงกว่าคนปกติ ทำให้วินิจฉัยได้แน่นอนว่า อาการดีซ่านที่เกิดจาก โรคตับ นั้น เป็นโรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัสซี คนไข้จะรู้สึกสบายขึ้น หายอ่อนเพลีย หายเบื่ออาหาร ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง จะมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย บางครั้งมีอาการตาเหลืองเล็กน้อย นานเป็นปี ถึงสิบๆ ปี ก่อนที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา ส่วนผู้ที่เป็นพาหะของ ไวรัสตับอักเสบบี หรือซี

ไขมันพอกตับในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี

รูปภาพ
ไขมันพอกตับในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีส่วนใหญ่ หากไม่มีภาวะตับแข็งร่วมด้วย มักจะมีค่าตับที่ค่อนข้างสูงหรือมีไขมันพอกตับ ซึ่งเจ้าไขมันนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการลุกลามเป็นมะเร็งตับได้ในอนาคตเช่นกันค่ะ สัญญาณเบื้องต้นที่อาจบอกถึงความผิดปกติของตับ ได้แก่ การที่คุณพยายามลดน้ำหนักทุกวิธี แต่ไม่มีวี่แววว่าจะลดลง ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง รู้สึกเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียจนผิดปกติ มีอาการเจ็บตึงๆ บริเวณชายโครงด้านขวา รู้สึกเบื่ออาหารและอาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย เป็นต้น ทั้งนี้ ยังมีกลุ่มที่เสี่ยงต่อภาวะไขมันพอกตับ คือ ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือไขมันในเลือดสูง ไม่ชอบออกกำลังกาย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ชอบกินของทอด ของมัน และไม่ค่อยกินผักผลไม้นั่นเองค่ะ ไขมันพอกตับ แค่ปรับพฤติกรรมการกิน ก็ป้องกันได้แล้วนะคะ ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีควรลด ละ เลิก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้ตับทำงานหนักยิ่งขึ้น ควรควบคุมการกินคาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำตาล ข้าว แป้ง ผลไม้ น้ำผลไม้ เพราะหากกินเข้าไปมากแล้วเหลือใช้ ร่างกายจะเปลี

เพื่อนสนิทของไวรัสตับอักเสบซี

รูปภาพ
เพื่อนสนิทของไวรัสตับอักเสบซี ทำไมคนที่ตรวจเจอไวรัสตับอักเสบซีแล้ว ควรจะต้องตรวจหาเพื่อนสนิทของมันด้วยนั่นก็คือ "ไวรัสตับอักเสบบี" เพราะเจ้าไวรัสสองตัวนี้ เป็นเกลอกันค่ะ มักจะมาพร้อมๆ กันเสมอ แถมการติดต่อก็คล้ายกันด้วยเพียงแต่ไวรัสตับอักเสบบี จะสามารถติดได้หลายช่องทางมากกว่าไวรัสตับอักเสบซีค่ะ ในกรณีที่แพทย์ตรวจไม่พบเชื้อ อาจจะแนะนำให้ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสตับอักเสบบีได้หรือในบางรายก็ฉีดป้องกันและมีภูมิคุ้มกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ในบางรายอาจจะต้องมีการรักษาไวรัสตับอักเสบซีให้หายขาดเสียก่อน ถึงจะเริ่มวางแผนในการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีในตอนหลัง ไวรัสตับอักเสบซีถึงแม้จะดูร้ายแรงกว่าเนื่องจากไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ไวรัสตับอักเสบบีก็เป็นโรคที่รักษายาก ต้องใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน หากทำการฉีดวัคซีนเพียง 3 ครั้งก็สามารถป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้มากกว่า 10 ปี ทั้งนี้ต้องมีการตรวจสอบก่อนนะคะว่ามีอาการแพ้วัคซีนหรือส่วนประกอบของวัคซีน หากต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสตับอักเสบชนิดนั้นๆ ก็ควรป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้ออีกทางห

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจากอุปกรณ์การแพทย์

รูปภาพ
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจากอุปกรณ์การแพทย์ ความแตกต่างของ ไวรัสตับอักเสบซี จาก A B D E อะไรก็ตามแต่ เกิดจากเชื้อไวรัสที่ต่างชนิดกันแต่ทั้งหมดนั้นนำไปสู่อาการอักเสบของตับได้เหมือนๆ กันค่ะ โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบ จะติดต่อผ่านกันได้หลายทาง แล้วแต่ความสามารถของมัน สำหรับไวรัสตับอักเสบซีจะดูน่ากลัวกว่าเพราะปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเหมือนไวรัสตับอักเสบเอและบี และอีกทั้งไวรัสตับอักเสบซียังมีสายพันธ์ที่รักษายากง่ายแตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ หลายคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีนี้จึงไม่รู้สึกตัวและมีอาการแฝงในร่างกายนานกว่า 10-15 ปี โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จะติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมาจากเลือดและการมี เพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ไม่ใช่ติดจากการใช้ภาชนะในการดื่มหรือทานร่วมกัน การใช้ห้องน้ำร่วมกัน การไอ จาม หรือแม้แต่กระทั่งการจูบกอด ในบางกรณี การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีก็เกิดขึ้นจาก อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ไม่ได้มาตรฐานทางด้านความสะอาด การฆ่าเชื้อโรคและการใช้งานที่ไม่ได้ดูแลอย่างเข้มงวด หรือในสถานพยาบาลที่ไม่มีคุณภาพ ในบางกรณีที่มีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันระหว่างกลุ่มเพื่อนกันเอง เพื่อฉี

ความแตกต่างของไวรัสตับอักเสบแต่ชนิด

รูปภาพ
ความแตกต่างของไวรัสตับอักเสบแต่ชนิด ตับอักเสบ ความแตกต่างของไวรัสตับอักเสบซี จาก A B D E อะไรก็ตามแต่ เกิดจากเชื้อไวรัสที่ต่างชนิดกันแต่ทั้งหมดนั้นนำไปสู่อาการอักเสบของตับได้เหมือนๆ กันค่ะ โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบ จะติดต่อผ่านกันได้หลายทาง แล้วแต่ความสามารถของมัน สำหรับไวรัสตับอักเสบซีจะดูน่ากลัวกว่าเพราะปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเหมือนไวรัสตับอักเสบเอและบี และอีกทั้งไวรัสตับอักเสบซียังมีสายพันธ์ที่รักษายากง่ายแตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ หลายคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีนี้จึงไม่รู้สึกตัวและมีอาการแฝงในร่างกายนานกว่า 10-15 ปี โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จะติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมาจากเลือดและการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ไม่ใช่ติดจากการใช้ภาชนะในการดื่มหรือทานร่วมกัน การใช้ห้องน้ำร่วมกัน การไอ จาม หรือแม้แต่กระทั่งการจูบกอดค่ะ สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv

กินตับเยอะๆ ช่วยบำรุงตับจริงหรือไม่

รูปภาพ
กินตับเยอะๆ ช่วยบำรุงตับจริงหรือไม่ หลายคนเข้าใจผิดว่ากินตับเยอะๆ จะช่วยให้บำรุงตับ ความจริงแล้วตับจะเป็นแหล่งสะสมของวิตามินเอ และมีธาตุเหล็กอยู่ สารเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้ว แต่ตับมีคอเลสเตอรอลอยู่สูงด้วย ดังนั้นการกินตับเพื่อหวังผลในการบำรุงตับอย่างต่อเนื่อง อาจมีผลเสียในเรื่องของไขมันที่จะกลับไปสู่ร่างกาย หรือไปพอกตับแทน จึงต้องทานอย่างระมัดระวังค่ะ โดยเฉพาะในผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี อยู่แล้ว หรือในรายที่มีอาการแสดงออกอย่างเด่นชัด การทำงานของตับจะมีความผิดปกติอยู่แล้ว ต้องระมัดระวังยิ่งหากทานของหวานที่มีน้ำตาลสูง จะทำให้ตับไม่สามารถเก็บกลูโคสเอาไว้ และนำไปสลายเป็นพลังงานได้ ถ้ามีอาการอ่อนเพลีย แล้วทานของหวานอาจจะรู้สึกดีขึ้น แต่เป็นอาการที่ดีขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่การรักษาที่ถูกต้อง นอกจากนี้การรับประทานน้ำหวานเป็นประจำ อาจทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาเพิ่มได้ค่ะ สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv

ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด

รูปภาพ
ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด อาหารที่ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายตับเพิ่มขึ้น หลักๆ เลยคือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท อาหารประเภทหมักดองซึ่งจะมีสารกลุ่มไนเตรท ไนไตรท์ ดินประสิว และอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อตับ รวมไปถึงอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น ปลาร้า ปลาดิบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอาหารที่มีไขมันสูง ของมัน ของทอด ซึ่งจะทำให้เกิดการสะสมของไขมัน รวมไปถึงอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อรา อย่าง อะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นเชื้อราที่อยู่ในถั่วค่ะ ส่วนอาหารที่ช่วยในการฟื้นฟูสุขภาพตับ ที่เราควรทาน คือ ข้าวกล้อง และข้าวกล้องงอก ในข้าวกล้องจะมีสารอาหารมากกว่าข้าวขาวปกติ โดยเฉพาะใยอาหาร กรดโฟลิค วิตามินต่างๆ แกมมา โอไรซานอล (สารต้านอนุมูลอิสระจากเมล็ดพืช) วิตามินอี รวมไปถึงสารกาบา ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังควรทานพืชผักผลไม้อย่าง กะหล่ำปลี แครอท แตงโม หน่อไม้ฝรั่ง เพราะผักและผลไม้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และยังมีใยอาหารอยู่สูง ช่วยลดการเกิดพิษกับตับได้ สนใจยารั

การตรวจ HCV RNA

รูปภาพ
การตรวจ HCV RNA HCV RNA ขั้นตอนหลังจากคุณตรวจพบเชื้อ ไวรัสตับอักเสบซี แล้ว ไม่ว่าจากสถานพยาบาลใดก็ตาม จะต้องมีการนัดตรวจ HCV RNA และ HCV Genotype เพื่อทราบจำนวนของไวรัสตับอักเสบซีและสายพันธ์ เช็คสภาวะผังผิดในตับด้วยวิธี Liver Biopsy โดยจะมีต้องมีผล Histologic Activity Index (HAI) Score หรือ Metavir Score ตรวจวัดความยืดหยุ่นของตับ (Liver stiffness) โดยเครื่อง Transient elastography หรือ Ultrasound elastography หรือ MRI elastography ในกรณีผู้ปวย ไวรัสตับอักเสบซี ที่ติดเชื้อ HIV ร่วมด้วยต้องมีการตรวจ HIV RNA และ CD4 โดยมีแพทย์ร่วมดูแลรักษาโรคติดเชื้อ HIV ร่วมกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะ หรือเป็น แพทยอายุรกรรม ที่ปฏิบัติงานด้านโรคระบบทางเดินอาหารไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยทั้งนี้จะต้องมีการหยุดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หรือมีระยะปลอดจากโรคอื่นเกินกว่า 6 เดือน สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv

ความชุกของสายพันธุ์ไวรัสตับอักเสบซี

รูปภาพ
ความชุกของสายพันธุ์ไวรัสตับอักเสบซี ในปัจจุบันเชื้อ ไวรัสตับอักเสบซี สามารถจําแนกได้เป็น 6 สายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์มีความรุนแรงและการตอบสนองต่อการรักษาที่แตกต่างกัน รวมถึงมีการกระจายตัวที่หลากหลายตามภูมิภาคของโลก เช่น สายพันธุ์ 1-3 เป็นสายพันธุ์ที่สามารถพบได้ทั่วโลก ในขณะที่สายพันธุ์อื่นสามารถพบได้เพียงบางภูมิภาคของโลกเท่านั้น สายพันธุ์ที่พบมากที่สุดทั่วโลก ได้แก่ สายพันธุ์ 1 ใน ประเทศไทย พบสายพันธุ์ 3 มากที่สุด (ร้อยละ 46.1) รองลงมาคือ สายพันธุ์ 1 (ร้อยละ 32.5) และสายพันธุ์ 6 (ร้อยละ 20.9) ตามลําดับ สายพันธุ์ไวรัสตับอักเสบซี จากรายงานสถานการณ์ภาระโรค (Global Burden of Disease) ขององค์การอนามัยโลก ในปี พ.ศ. 2547 พบว่าความชุกของการติด เชื้อไวรัสตับอักเสบซี ทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 2.2 สําหรับสถานการณ์ในประเทศไทยรายงาน ปีพ.ศ. 2550 พบความชุกของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีร้อยละ 2.15 ในประชากรอายุ 2-60 ปีและเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.8 ในประชากรอายุ 21-60 ปี นอกจากนี้พบว่า ความชุกของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเพิ่มขึ้นในประชากรกลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ร้อยละ 8.4 ในกลุ่ม ผู้ติดเช

ระยะเวลาของโรคไวรัสตับอักเสบซี

รูปภาพ
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี หรือ Hepatitis C virus หรือ HCV แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดตามระยะเวลาของการเป็นโรค คือไวรัสตับอักเสบซีชนิดเฉียบพลัน (Acute) และไวรัสตับอักเสบซีชนิดเรื้อรัง (Chronic) โดยผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีส่วนมาก ประมาณ 85% จะมีโอกาสที่เชื้อจะพัฒนาเป็นชนิดเรื้อรัง จนไปสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับ ตามลำดับได้ในอนาคต หนึ่งในโรคที่มีผู้เสียชีวิตร้อยละ 5 ที่มาจากเชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดยผ่านทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การรับเลือดที่ไม่ผ่านการคัดกรองที่ดี การมีเพศสัมพันธ์หรือจากแม่สู่ลูก เป็นต้น โดยเบื้องต้นอาการของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแทบจะไม่มีให้เห็นเด่นชัด ต่อมาหากเข้าสู่ระยะแสดงผลแล้วจะพบว่าร่างกายป่วยง่าย มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ปัสสาวะเป็นสีเข้ม อุจจาระเป็นสีเทา ปวดข้อ และภาวะดีซ่านตัวเหลือง ตาเหลืองตามมานั่นเองค่ะ สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv

ดื่ม “กาแฟ” ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งตับ

รูปภาพ
ดื่ม “กาแฟ” ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งตับ สำหรับคุณผู้อ่านที่ไม่อยากป่วยเป็น มะเร็งตับ วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาบอกต่อกันค่ะ นั่นคือการดื่มกาแฟนั่นเองค่ะ ถึงแม้ว่าใครๆ จะบอกว่ากาแฟมี สารคาเฟอีน ที่ทานมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ แต่ถ้าเราดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่เติมน้ำตาล หรือครีมเทียมจนมากเกินไป เจ้ากาแฟนี่ก็ให้ประโยชน์กับเราไม่น้อยเลยล่ะค่ะ องค์กร European Food Safety Authority (EFSA) พบว่าการดื่มกาแฟนั้นช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งตับได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็น โรคตับแข็ง ได้อีกด้วยเพราะว่าในกาแฟมีสาร Cafestol และ Kahweol ที่มีส่วนช่วยกำจัดสารก่อมะเร็งในตับ และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) อีกด้วย ศาสตราจารย์เกรแอม อเล็กซานเอร์ แห่งมหาวิทยาลัย King collage London แห่งประเทศอังกฤษ ระบุว่า จากผลการศึกษาดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการดื่มกาแฟสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งตับได้หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสม คือ 1-2 แก้วต่อวัน เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงปลอดโรค เราสามารถที่จะดูแลร่างกายเพื่อป

ยาลดกรดกับตับอักเสบ

รูปภาพ
ยาลดกรด  อาจมีฤทธิ์ส่งผลให้อาการของโรคตับอักเสบจากไวรัสซีรุนแรงมากขึ้นได้ เพราะในยาลดกรดบางประเภทที่ใช้บรรเทาอาการ กรดไหลย้อน ในกระเพาะอาหาร บางคนที่ป่วยเป็นโรค ไวรัสตับอักเสบซี  หากมีการใช้ยาตัวนี้ โดยที่ไม่รู้ตัวว่ายาลดกรด จะส่งผลให้เกิดความขาดสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย จนทำให้มีการอักเสบ และเกิดพยาธิสภาพของโรคไวรัสตับอักเสบซีที่เรื้อรังเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้หากต้องการใช้ยาลดกรดจริงๆ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับ สุขภาพช่องท้อง ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวที่ทำการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีของท่านอยู่ หรือใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็น หรือระยะสั้นๆ เท่านั้น สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv

ดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง

รูปภาพ
ลักษณะอาการของโรคไวรัสตับอ ักเสบซี คือ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ปวดท้อง เจ็บเสียดบริเวณชายโครงขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งของตับ และอาการสำคัญที่บ่งว่าเป็น โรคไวรัสตับอักเสบซี คือ อาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม ซึ่งเรียกกันว่า "ดีซ่าน" สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv

ภาวะเซลล์ตับผิดปกติ

รูปภาพ
ภาวะโรคไวรัสตับอักเสบซี หมายถึง ภาวะที่ เซลล์ตับ มีความผิดปกติเกิดขึ้น ส่งผลให้การทำหน้าที่หลักในส่วนต่างๆ ของตับเปลี่ยนไป จะเกิดการมีแผลลักษณะขรุขระ ไม่เรียบ และอาจทำให้เป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้ในอนาคตอันใกล้ได้หากเราไม่ได้ทำการตรวจก่อนล่วงหน้า ประเภทของภาวะตับอักเสบซี ตับอักเสบเฉียบพลันนั้น อาการที่สามารถพบได้บ่อย คือ ผู้ติดเชื้อจะรู้สึกอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เวียนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่อไม่อยากทานอาหาร เริ่มปวดท้องที่ตำแหน่งชายโครงด้านขวาจากอาการของตับที่เริ่มโตขึ้น หากเข้าห้องน้ำแล้วสังเกตุปัสสาวะของตนเองจะมีสีเข้มขึ้นกว่าปกติ ผิวพรรณตามร่างกายเริ่มสีเหลือง บริเวณตาขาวมีสีเหลือง ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากเชื้อไวรัสตับอักเสบซี และตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบซี มักจะไม่มีอาการ แต่เซลล์ตับจะถูกทำลายไปเรื่อยๆ จนเกิดตับแข็ง หรืออาจเป็นโรค มะเร็งตับ ในที่สุด สามารถเกิดจากผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอักเสบ การดื่มแอลกอฮอล์ การได้รับสารพิษ ความอ้วน หรือมีการอักเสบของตับเป็นเวลานานเกิน 6 เดือนขึ้นไป สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่ Line id: thaihcv