ไวรัสตับอักเสบซี บ่อเหตุของมะเร็งตับ

ไวรัสตับอักเสบซี ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับชนิด HCC (Hepatocellular Carcinoma) ถึง 21% โดยโรคชนิดนี้ เซลล์ตับจะอยู่ในสภาวะที่ถูกทำลายจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ตัดสินใจไปพบแพทย์ก็คือ เริ่มมีอาการแสดงออกให้เห็นเด่นชัดแล้ว ได้แก่ อาการปวดท้องด้านบนขวา จุกแน่น ท้องอืด เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงอย่างผิดปกติ รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง อาการตัวเหลือง ตาเหลือง หากลองจับคลำบริเวณตับ จะสัมผัสได้ถึงก้อนแข็งๆ ในบางรายอาจถึงขั้นมีเลือดออก หรือมีน้ำในช่องท้อง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค บวกกับการวินิจฉัยของแพทย์ที่ทำการรักษา หากรู้ตัวช้า รักษาอาการได้ไม่ทันการณ์ อาจเกิดอาการตับแข็งและตับวายในเวลาต่อมา จึงแนะนำเสมอให้ทุกๆ คนที่มีความเสี่ยงรีบตรวจหาไวรัสตับอักเสบซี ก่อนเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้รู้ถึงอาการป่วยของตนเอง และรักษาให้หายขาดได้ในที่สุด



การดูแลตัวเองสำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่มีผล ต่อการดำเนินของโรค วันนี้จะมาแนะนำ วิธีปรับเปลี่ยน พฤติกรรมให้ดีขึ้น และสามารถทำให้สุขภาพ ของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีแข็งแรงและอยู่ร่วมกับคนในครอบครัได้อย่างมีความสุข

  • แบ่งแยกของใช้ส่วนตัวพื้นฐานของคุณออกจากผู้อื่นภายในครอบครัว ได้แก่ ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า กรรไกรตัดเล็บ มีดโกน ชุดชั้นใน เป็นต้น

  • หากตรวจเลือดแล้วไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไว้ด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่ติดไวรัสตับอักเสบซีจะมีโอกาสติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดอื่นร่วมด้วย

  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท เพราะจะก่อให้เกิดภาวะตับแข็งหรือโรคมะเร็งตับได้เร็วขึ้นเพราะคุณติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีอยู่แล้ว

  • ออกกำลังกายเป็นประจำและควบคุมอาหาร ไม่ควรปล่อยให้อ้วน เพราะหากมีระดับไขมันในเลือดสูงจะเป็นตัวนำทางให้เกิดภาวะตับแข็งได้เร็วขึ้นได้เช่นกัน

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ งดของมัน ของทอด ของหวาน อาหารรสจัด และควรปรุงอาหารให้สุกใหม่ๆ ไม่ควรทานอาหารที่ปรุงทิ้งไว้ค้างคืน หรือใส่สารกันบูด




สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่


Line id: thaihcv

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย ไวรัสตับอักเสบซี

Sofosbuvir+ Velpatasvir ขายยารักษาไวรัสตับอักเสบซี

กลุ่มเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบซี และอาการที่สังเกตได้