การตรวจสายพันธุ์ของไวรัสตับอักเสบซี

การตรวจสายพันธุ์ของไวรัสตับอักเสบซี

แรกเริ่มหากเราตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี แล้ว แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยโรคเพิ่มเติม โดยเริ่มจากการตรวจการทำงานของตับ เพราะไวรัสตับอักเสบซีเกี่ยวข้องกับการอักเสบของตับโดยตรง การตรวจหาหลักฐานของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดยการตรวจแบบ ANTI-HCV หากให้ผลบวก แสดงว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจริง และตรวจหา HCV-RNA เพิ่ม ซึ่งจะบอกถึงปริมาณของไวรัสตับอักเสบซี



นอกจากนั้น การตรวจสายพันธุ์ของไวรัสตับอักเสบซีด้วยว่าเป็นสายพันธุ์ที่เท่าไหร่ (1-6 สายพันธุ์) จะมีความสำคัญต่อการเลือกใช้ยา และระยะเวลาในการใช้ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี จากนั้นควรมีการตรวจพยาธิสภาพของตับ เพื่อประเมินอาการอักเสบและพังผืดในตับ ทำได้โดยการเจาะตรวจชิ้นเนื้อตับ หรือใช้เครื่องมือพิเศษสำหรับวัดปริมาณพังผืดในเนื้อตับ สุดท้ายแพทย์จะทำการตรวจอัลตร้าซาวน์ และการตรวจเลือดหาสาร Alpha-Fetoprotein เพื่อประเมินภาวะตับแข็งและมะเร็งตับต่อไป

ไวรัสตับอักเสบซีไม่ติดต่อสู่ผู้อื่นด้วยการ

✖️ จับมือ
✖️ กอด
✖️ จูบ
✖️ ทานข้าวร่วมกัน
✖️ ใช้ภาชนะร่วมกัน
✖️ ใช้ห้องน้ำร่วมกัน
✖️ จามหรือไอ
✖️ ซักผ้าร่วมกัน



ไวรัสตับอักเสบซีติดต่อผ่านเลือด ใช้เข็มร่วมกับผู้อื่น หรือการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก

สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่


Line id: thaihcv




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย ไวรัสตับอักเสบซี

Sofosbuvir+ Velpatasvir ขายยารักษาไวรัสตับอักเสบซี

กลุ่มเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบซี และอาการที่สังเกตได้