ไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะไขมันพอกตับร่วม
ไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะไขมันพอกตับร่วม
มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจำนวนมาก ที่มักจะตรวจพบว่ามีภาวะไขมันพอกตับร่วมด้วย ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายของผู้ติดเชื้อไม่สามารถนำไขมันที่เรารับประทานเข้าไป ออกมาใช้งานให้หมด จึงสะสมเป็นไขมันในรูปของไตรกลีเซอไรด์ในตับนั่นเอง
สัญญาณเตือนที่อาจบ่งชี้ว่าตับของคุณเริ่มมีปัญหาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี จนเข้าสู่ภาวะไขมันพอกตับ มีดังนี้
- เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น มีพุง หรือไขมันส่วนเกิน
- ลดน้ำหนักยากกว่าคนอื่นหรือเพื่อนๆ ด้วยกัน
- ตรวจเช็คระดับคอเลสเตอรอลสูง
- ตรวจพบไตรกลีเซอไรด์ในเลือด มีค่าสูง
- ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานร่วมด้วยกับการติดเชื้อ
- รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ทำงานไม่ได้
- เจ็บตึงบริเวณชายโครงด้านขวาด้านบนอยู่บ่อยครั้ง
- มีอาการเบื่ออาหาร หรือคลื่นไส้ อาเจียนบ่อย
หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยภาวะไขมันพอกตับให้เร็วที่สุด โดยผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี จะต้องทำการรักษาในส่วนของจำนวนไวรัสให้ลดลงเสียก่อนหรืออยู่ในสภาวะที่หายขาดแล้ว จึงจะเริ่มรักษาภาวะไขมันพอกตับไปได้ แต่ทั้งนี้ ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองควบคู่ไปในระหว่างการรักษาได้ด้วยเช่นกัน
โดยงดรับประทานของทอด ของมัน ของหวาน จัดตารางเวลา ในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมอาหารและไม่ให้น้ำหนักตัวเกิน มาตรฐานจนมากไป ลดการทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่ไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้รักษาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี เพื่อลดการทำงานของตับลงและช่วยให้ตับฟื้นฟูได้เร็วมากขึ้น
สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น