คุณจะมีโอกาสเป็นโรคตับแข็งหรือไม่

หากคุณอยากจะรู้ว่า คุณจะมีโอกาสเป็นโรคตับแข็งหรือไม่ ก็ทำได้เพียงการตรวจเท่านั้นว่า มีความเสี่ยงที่จะเป็นตับแข็งหรือไม่อย่างไร เช่น ไขมันพอกตับหรือไม่ เป็นไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซีหรือไม่ ดื่มเหล้าประจำหรือไม่ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยระยะแรกๆ จะไม่มีอาการใดๆ ให้เอะใจหรือสงสัย จึงไม่เคยฉุดคิดว่าต้องไปตรวจ ส่วนใหญ่จะตรวจพบ หรือทราบได้จากการตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจสุขภาพของบริษัทที่ทำงานอยู่ เช่น มีค่าตับผิดปกติ ตรวจพบว่า มีไวรัสตับอักเสบบี มีไวรัสตับอักเสบซี หรือ มีไขมันพอกตับ ซึ่งคนไข้ในกลุ่มนี้ ก็จะมีการพัฒนาเป็นตับแข็งได้ในอนาคตอย่างแน่นอน หากไม่ทำการรักษาแต่เนิ่นๆ แต่ถ้าเกิดเรามีความเสี่ยงในโรคกลุ่มนี้ ก็อาจต้องมาคอยตรวจเช็คตับ เป็นระยะ รวมถึงการอัลตร้าซาวด์ตับเป็นระยะๆ จะช่วยเฝ้าระวังการเกิดมะเร็งตับได้





การวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบซ

➡️ วินิจฉัยตรวจคัดกรองเบื้องต้น โดยการเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับและหาเชื้อไวรัส บางรายที่ตรวจไม่เจอในระยะแรกอาจจะต้องตรวจซ้ำอีก 2 - 8 สัปดาห์
➡️ ตรวจหา DNA ของเชื้อไวรัสตับอักเสบซี และตรวจหาสายพันธ์ุเพื่อการรักษาต่อไป

วิธีป้องกันไวรัสตับอักเสบซี ⁉️
✖️ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
✔️ให้สวมถุงมือถ้าต้องสัมผัสเลือด
✖️ห้ามใช้มีดโกนหนวด แปรงสีฟันร่วมกัน
✖️ห้ามใช้อุปกรณ์ในการสักร่วมกัน
✔️ใช้ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง
✔️ฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบ เอ และ บี



สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่




Line id: thaihcv




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย ไวรัสตับอักเสบซี

Sofosbuvir+ Velpatasvir ขายยารักษาไวรัสตับอักเสบซี

กลุ่มเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบซี และอาการที่สังเกตได้