ขั้นตอนการตรวจก่อนรักษาไวรัสตับอักเสบซี

ขั้นตอนการตรวจเช็คร่างกายก่อนเข้าทำการรักษาของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีนั้นจะต้องประเมินหาความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด เพื่อหาว่ามีข้อห้ามในการใช้ยาหรือต้องปรับขนาดยาให้แก่ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีหรือไม่




ตรวจหาการทำงานของต่อมไทรอยด์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพราะยาที่ใช้รักษาโรคนั้น จะส่งผลให้การทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติมากขึ้น แต่หากพบว่าผิดปกติอยู่ก่อนแล้ว แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องควบคุมให้อยู่ในระดับปกติเสียก่อน

ในรายที่ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ร่วมด้วยก็ต้องพิจารณาเป็นพิเศษเช่นกัน อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนขนาดยาหรือชนิดของยาที่ใช้ทั้งการรักษาไวรัสตับอักเสบซีและ HIV ด้วย รวมทั้งกรณีผู้หญิงจะต้องตรวจ
หาการตั้งครรภ์ เพราะยาที่รักษาไวรัสตับอักเสบซีมีผลข้างเคียงต่อเด็ก อาจส่งผลให้แท้งหรือคลอดก่อนกำหนดในอัตราสูงมาก

หลังจากนั้นต้องทำการคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัด ทั้งการรับประทานยาคุมกำเนิด ใส่ห่วง หรือใช้ถุงยางอนามัย สำหรับฝ่ายชายที่จะเริ่มทำการรักษาไวรัสตับอักเสบซี แพทย์ก็แนะนำให้คุมกำเนิดด้วยเช่นกัน เพราะตัวยามีผลต่อตัวอสุจิทำให้มีความผิดปกติต่อเด็กได้ค่ะ

สิ่งหนึ่งที่ควรทำเมื่อทราบว่าป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบซีแล้วควรทำการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบีด้วย เพราะการที่เราเป็นไวรัสตับอักเสบซีก็มีความรุนแรงอยู่แล้ว หากมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอื่นๆ อาจทำให้ตับอักเสบเพิ่มขึ้นและยากต่อการรักษา







Cipla ผู้ประกอบการรายหลักๆ ของตลาดยาโรงพยาบาล
ของบ้านเราที่เรารู้จัก ยาทั้งสองตัวนี้ คือ HepCDac กับ HepCvir 
ทานวันละเม็ด เหมือนกัน สามเดือน



'Hepcvir-L' ผลิต โดย Cipla HEPCVIR-L เป็น ชุด ยา FDC sofosbuvir 
และ ของ ledipasvir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสตับอักเสบซี (HCV) โดยตรง
ตัวนี้ทานสามเดือนเช่นกัน



ยาชื่อ HepCvel : Sofosbuvir+ Velpatasvir ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี
ยาตัวนี้เป็นตัวล่าสุดของ Cipla sofosbuvir 400+ Velpatavir 100
ต้องทานสามเดือนและทุกวันเหมือนกัน


สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่


Line id: thaihcv


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย ไวรัสตับอักเสบซี

Sofosbuvir+ Velpatasvir ขายยารักษาไวรัสตับอักเสบซี

กลุ่มเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบซี และอาการที่สังเกตได้