การตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี

การตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี

การตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (HCV viral load: HCV RNA-Quantitative)



หากผลการตรวจได้ค่าน้อยกว่า 5,000 IU/ml แสดงว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี แต่ยังไม่รุนแรงมากและยังไม่เข้าเกณฑ์ได้รับการรักษาตามแนวทางกํากับการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี ด้วยยา Peginterferon+Ribavirin และยาในกลุ่ม DAA (Sofosbuvir และ Sofosbuvir+Ledipasvir) เนื่องจากความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบซีจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ ให้กลับมาตรวจ HCV viral load ซ้ําเพื่อติดตามดูปริมาณของไวรัสในปีถัดไปนับจากการตรวจครั้งล่าสุด 12 เดือนขึ้นไปค่ะ แต่หากผลการตรวจได้ค่าตั้งแต่ 5,000 IU/ml ขึ้นไปแสดงว่ามีการติดเชื้อ และเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการรักษาตามแนวทางกํากับการใช้ยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีด้วยยา Peginterferon+Ribavirin และยาในกลุ่ม DAA (Sofosbuvir และ Sofosbuvir+Ledipasvir) ซึ่งในกรณีนี้ต้องมีการตรวจประเมินการรักษาพิจารณาตามแพทย์ในขั้นตอนต่อไป

ในกรณีที่การตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี (Anti-HCV) แล้วได้ผลเป็นบวก (positive) จะต้องทำการตรวจเลือดหาปริมาณ RNA ของไวรัสเพื่อเป็นการยืนยันว่าผู้ป่วยมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจริง รวมถึงทราบระดับความรุนแรงของการติดเชื้อดังกล่าว โดยมีรายละเอียดผลการตรวจดังนี้



ผลการตรวจได้น้อยกว่าค่าต่ำสุดที่วัดได้ (Not detected) ต้องนัดผู้ป่วยมาตรวจเลือดซ้ำ เพื่อยืนยันการติดเชื้อในภายหลังอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไปแต่ไม่เกิน 1 ปี นับจากการตรวจครั้งล่าสุดหากได้ผลตรวจเป็น Not detected อีกครั้งแสดงว่า "ไม่มีการติดเชื้อ" และหากมีความเสี่ยงในภายหลังสามารถมารับบริการตรวจ HCV viral load ซ้ำได้ในปีถัดไป


สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่


Line id: thaihcv



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย ไวรัสตับอักเสบซี

Sofosbuvir+ Velpatasvir ขายยารักษาไวรัสตับอักเสบซี

กลุ่มเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบซี และอาการที่สังเกตได้