ไม่รักษาไวรัสตับอักเสบซีได้ไหม
ถ้าหากโรคไวรัสตับอักเสบซี ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะตับอักเสบไปสู่โรคมะเร็ง ไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไข วันดีคืนดี ตับที่พยายามงอกแทรกขึ้นมาเพื่อทดแทนส่วนที่ถูกทำลายไป อาจเกิดอาการงอกเรื่อยๆ จนไม่หยุด กลายเป็นก้อนที่โตขึ้นเรื่อยๆ ตรงนี้แหละค่ะ ที่ทางการแพทย์เรียกว่าเป็นภาวะมะเร็ง หรือถ้าเกิดจากเนื้อตับหรือเซลล์ตับ จะเรียกว่า มะเร็งตับ ชนิดเฮปาโตเซลลูล่า คาร์สิโนมาหรือเรียกสั้นๆ ว่า เฮปาโตมาหรือมีชื่อเล่นแบบย่อๆ ว่า HCC นั่นเอง
การอักเสบของตับที่มีพังผืดและแผลเป็นเกิดขึ้นใช้เวลาสะสมนานหลายปี ตั้งแต่ 10-30 ปีเลยทีเดียว หากมองดูตับแข็ง จากภายนอกจะเห็นตับโตขึ้นตามระยะของโรค ผิวตับมีตะปุ่มตะป่ำเล็กบ้างใหญ่บ้าง วงจรของไวรัสตับอักเสบซี จากระยะต้นไปจนเป็นแบบเรื้อรัง ถ้าไม่ได้กำจัดให้สิ้นไปก็จะวนเวียนเป็นอย่างนี้จนสภาพตับพังไปในที่สุดค่ะ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบซีที่เข้าสู่ภาวะมะเร็งตับ แล้ว มักจะเข้าใจผิดว่ารักษาไปก็ไม่ได้ผลอะไรดีขึ้นต้องปล่อยให้โรคดำเนินต่อไป ความจริงแล้วการรักษาไวรัสตับอักเสบซี โดยการมีพังผืดในตับหรือแผลในตับมากมายจะถูกกำจัดออกไปและไม่เกิดขึ้นใหม่ เพราะเนื้อตับดีจะงอกออกมาทดแทน พังผืดจะค่อยๆ ลดลงและหายไป ตับจะกลับมาอยู่ในสภาพดี แต่ยกเว้นถ้าคุณยังไม่ทำการรักษาหรือมีพฤติกรรมซ้ำเติมโรคเข้าไปอีก ภาวะตับแข็งก็จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดตับก็ทำงานต่อไปไม่ได้ค่ะ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบซีที่เข้าสู่ภาวะมะเร็งตับ แล้ว มักจะเข้าใจผิดว่ารักษาไปก็ไม่ได้ผลอะไรดีขึ้นต้องปล่อยให้โรคดำเนินต่อไป ความจริงแล้วการรักษาไวรัสตับอักเสบซี โดยการมีพังผืดในตับหรือแผลในตับมากมายจะถูกกำจัดออกไปและไม่เกิดขึ้นใหม่ เพราะเนื้อตับดีจะงอกออกมาทดแทน พังผืดจะค่อยๆ ลดลงและหายไป ตับจะกลับมาอยู่ในสภาพดี แต่ยกเว้นถ้าคุณยังไม่ทำการรักษาหรือมีพฤติกรรมซ้ำเติมโรคเข้าไปอีก ภาวะตับแข็งก็จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดตับก็ทำงานต่อไปไม่ได้ค่ะ
สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น