รู้ได้ยังไงว่าติดไวรัสตับอักเสบซี

จะรู้ได้แน่นอนยังไงว่าเราติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจริ

เมื่อทำการตรวจคัดกรองด้วยวิธีหา Anti-HCV แล้วผลออกมาเป็นบวก แพทย์จะยืนยันต่อด้วยการตรวจสายพันธุกรรมของไวรัสตับอักเสบซี หรือที่เรียกว่าการตรวจ RNA ของไวรัสตับอักเสบซี (HCV RNA) เพราะการตรวจโดยใช้เครื่องแบบนี้มีความไวและแม่นยำสูงมากค่ะ เป็นการตรวจไปด้วยพร้อมกับนับจำนวนไวรัสไปด้วย HCV Viral Load ผลที่รายงานออกมาจะเป็นจำนวนกี่ยูนิตต่อมิลลิลิตรของเลือด หรือไอยูเปอร์เอ็มแอล (IU/mL) หน่วยยูนิต ต้องไปแปลงเป็นกี่ตัวอีกครั้งด้วยการคำนวณ แต่เครื่องตรวจในปัจจุบันนั้นมีออกมาหลายบริษัทมากค่ะ การใช้ยูนิตก็เพื่อให้นับจำนวนออกมาเหมือนกัน ฉะนั้นเราจึงใช้คำว่า "ยูนิต" เป็นหน่วยกลางๆ



ทีนี้ปัญหามักจะมีอยู่ 2 แบบก็คือ หลายคนตกใจว่า ผลของตัวเองตั้ง 2 แสน อุ้ยของคนอื่นแค่ 5 หมื่น เอาเป็นว่ามากน้อยต่างกันไป ในภาษาแพทย์มักจะใช้ว่ามากกว่า 6 หรือ 7 แสนยูนิตขึ้นไป ตัวเลขไม่ค่อยแน่นอน ถ้ามากก็บ่งชี้ว่าอาจจะรักษายากกว่าคนที่มีจำนวนน้อย แต่อย่ากังวลมากค่ะ เพราะยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่มีผลต่อการรักษาไวรัสตับอักเสบซีนะคะ

ปัญหาที่สองคือเมื่อทำการรักษาไปสักระยะหนึ่งแล้ว เชื้อไวรัสตับอักเสบซีลดจำนวนลงแล้ว ใบรายงานผลก็ออกมาน้อยกว่าค่าใดค่าหนึ่ง เช่น น้อยกว่า 12 IU/mL หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ตรวจได้ไวที่สุดที่ 12 IU/mL น้อยกว่านี้เครื่องนับต่อไปไม่ได้ เช่น ถ้าค่าจริงอยู่ที่ 0, 8 หรือ 11 เครื่องมือก็จะอ่านว่า <12IU/mL เหมือนกัน ขอให้เข้าใจว่าถ้ารักษาจนครบและเมื่อแพทย์บอกว่าหายแล้ว ก็แปลว่าหายแล้ว ไม่มีเชื้อแล้ว แปลว่า 0 (ศูนย์) IU/mL แต่ใบรายงานก็ยังรายงานแบบเดิมเท่านั้นค่ะ



สนใจยารักษาไวรัสตับอักเสบซีติดต่อที่นี่




Line id: thaihcv




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย ไวรัสตับอักเสบซี

Sofosbuvir+ Velpatasvir ขายยารักษาไวรัสตับอักเสบซี

กลุ่มเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบซี และอาการที่สังเกตได้